ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่, ฉบับที่ 226, ปีที่ 36 เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2019 /2562 หน้า 16-17)
ในวัดคาทอลิกหลายๆแห่ง ตรงบรรณฐาน (ที่อ่านบทอ่าน) เราจะมองเห็นรูปปั้น หรือภาพสัญลักษณ์ของผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสี่ ภาพที่ปรากฏอยู่นั้นก็คือ รูปคนมีปีก สิงโตมีปีก วัวมีปีก และนกอินทรี อันที่จริงภาพเหล่านี้ มีที่มาจากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหนังสือประกาศกเอเสเคียล 1:5
“รูปร่างของสัตว์นั้นเป็นเช่นนี้ คือมรสัณฐานเหมือนมนุษย์ แต่สัตว์ทุกตัวมีหน้าสี่หน้า และมีปีกสี่ปีกทุกตัว...สัณฐานหน้าของมันทุกตัวมีหน้าเหมือนหน้าคน สัตว์ทั้งสี่มีหน้าสิงห์อยู่ด้านขวา มีหน้าวัวอยู่ด้านซ้าย มีหน้านกอินทรีอยู่ด้านหลัง”
ความศรัทธาต่อแม่พระเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นคาทอลิก และสิ่งนี้มีบทบาทอย่างยิ่งในชีวิตของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ผู้สวดสายประคำวันละสามครั้ง อย่างไรก็ตาม ความศรัทธาต่อแม่พระของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ต่างไปจากพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ สำหรับพระองค์ แม่พระมิได้เป็นเพียงพระมารดาผู้อ่อนโยนของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำที่มีความเชื่อเข้มแข็งและกล้าหาญด้วย
ในระหว่างที่พระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งในขณะนั้นพระองค์มีนามว่า ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ พระองค์มีความเคารพศรัทธาต่อภาพวาดในยุคบาโรค ที่มีชื่อว่า “แม่พระผู้แก้ปม” ผลงานชิ้นนี้แสดงให้เห็นภาพแม่พระแก้ปมเชือก ขณะที่พระนางเหยียบย่ำงูไว้ใต้พระบาท สารของภาพนี้ชัดเจน แม่พระทรงแก้ปัญหา ประสานความแตกแยกและปราบความชั่วร้าย
นักบุญซิสเตอร์โฟสตินา โควาลสกาอัครธรรมทูตแห่พระเมตตา
(ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 226 ปีที่ 36 กรกฎาคม – สิงหาคม 2019/2562 , หน้า 11 – 13)
ความมั่นใจในพระเมตตา คือสิ่งจำเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันซึ่งเป็นยุคสมัยของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ขณะเดียวกันก็เกิดวิกฤตทางศาสนาและศีลธรรม " หากปราศจากพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว เราก็ไม่รู้จักพระเจ้า ชีวิต ความตาย และตัวเราเองอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่วัฒนธรรมไร้พระเจ้า ได้กลายเป็นวัฒนธรรมที่ไร้ความหวัง เพราะพระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์ความรักนิรันดร์เท่านั้น ที่ทรงเติมเต็มดวงใจของมนุษย์ได้"
( พระคาร์ดินัล เอ.รูโก้ เวรูต้า พระอัครสังฆราชแห่งเมืองมาดริด)