ความศรัทธาต่อแม่พระเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นคาทอลิก และสิ่งนี้มีบทบาทอย่างยิ่งในชีวิตของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ผู้สวดสายประคำวันละสามครั้ง อย่างไรก็ตาม ความศรัทธาต่อแม่พระของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ต่างไปจากพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ สำหรับพระองค์ แม่พระมิได้เป็นเพียงพระมารดาผู้อ่อนโยนของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำที่มีความเชื่อเข้มแข็งและกล้าหาญด้วย
ในระหว่างที่พระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งในขณะนั้นพระองค์มีนามว่า ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ พระองค์มีความเคารพศรัทธาต่อภาพวาดในยุคบาโรค ที่มีชื่อว่า “แม่พระผู้แก้ปม” ผลงานชิ้นนี้แสดงให้เห็นภาพแม่พระแก้ปมเชือก ขณะที่พระนางเหยียบย่ำงูไว้ใต้พระบาท สารของภาพนี้ชัดเจน แม่พระทรงแก้ปัญหา ประสานความแตกแยกและปราบความชั่วร้าย
ด้วยความประทับใจในภาพนี้ พระองค์จึงนำภาพนี้กลับมายังอาร์เจนตินาด้วย ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความศรัทธาต่อแม่พระผู้แก้ปมในเวลาต่อมา อาจกล่าวได้ว่า แม่พระทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระองค์ในยามที่พระองค์ต้องนำพระศาสนจักร ฝ่าสถานการณ์ที่ผันผวนและยากลำบาก
พระสันตะปาปาฟรังซิสยังต้องเผชิญกับประเด็นบทบาทผู้นำสตรีในพระศาสนจักร แม้พระองค์ทรงริเริ่มการปฏิรูปงานอภิบาลกลุ่มรักร่วมเพศ แต่พระศาสนจักรยังไม่เปิดกว้างสำหรับผู้หญิงมากนักในพระศาสนจักร ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเธอสอนหนังสือเด็ก ดูแลคนยากจน คนเจ็บป่วยตามโรงพยาบาล และหน่วยงานสังคมสงเคราะห์
เพราะผู้หญิงก็มีบทบาทมาตลอดตั้งแต่ในอดีต หลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ มารี มักดาเลนา ไปที่พระคูหาเพื่อนำพระศพออกมา ระหว่างทางนางได้พบกับคนสวน ผู้ซึ่งเผยว่าทรงเป็นพระคริสตเจ้าผู้ทรงฟื้นคืนชีวิต ขณะที่นางวิ่งไปประกาศข่าวดีนี้แก่สาวกคนอื่นๆนั่นเอง นางได้นำสาระสำคัญของความเป็นพระศาสนจักรไปด้วย นั่นก็คือการแบ่งปันความรักที่ช่วยให้รอดของพระเจ้าในองค์พระเยซูเจ้า
(ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 226 ปีที่38 กรกฎาคม – สิงหาคม 2019/2562 หน้า 18)