อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เล่าถึงประวัติของเขาว่า ถ้าหากเขาไม่ได้พบกับหัวหน้า รปภ. (รักษาความปลอดภัย) คนหนึ่งที่โรงเรียนมัธยมที่เขาเรียน ชีวิตของเขาคงไม่ได้หันกลับ 180 ดีกรี และดีอย่างที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้
เรื่องเป็นเช่นนี้ .-
ตัวเขาเป็นเด็กนักเรียนเกกมะเหรกเกเร มักมีเรื่องกับเพื่อนนักเรียน ยังความวุ่นวายให้แก่ครูจนถูกลงโทษเป็นประจำ โทษที่ได้รับก็คือ ไปช่วยงานฝ่าย รปภ. และที่นั่นเขาได้พบกับหัวหน้า รปภ. ซึ่งเป็นคนรูปร่างค่อนข้างอ้วนเตี้ย แต่ละครั้งที่ถูกทำโทษอยู่ที่ฝ่าย รปภ. หัวหน้า รปภ. คนนี้ก็จะพูดคุยสอบถามว่า ชอบอะไร อยากเรียนอะไร ชอบงานอะไร โตขึ้นอยากเป็นอะไรถามไปและช่วยสอนงานให้ด้วย
ความคุ้นเคยก็กลายเป็นมิตรภาพอันยังผลให้นักเรียนเกเรคนนี้ (ตัวอาจารย์ผู้เล่าเรื่อง) เริ่มเปลี่ยนเป็นนักเรียนที่ดีขึ้น การถูกลงโทษก็ลดน้อยลงๆจนหัวหน้า รปภ.ก็เปรยว่า ช่วงหลังๆไม่ได้มาเลย (เพราะถูกลงโทษน้อยลง) จึงชวนให้มาทำงานหลังชั่วโมงเรียน นักเรียนคนนี้ก็แย้งว่า ใครจะมาจ้างนักเรียนเกเรคนนี้ หัวหน้า รปภ.บอกว่ามีซิ และเป็นจริงตามนั้น
“ผมจึงได้ทำงานหลังเลิกเรียนกับเขามาเป็นเวลานานเป็นปีๆ และตลอดเวลาเขาก็ให้คำแนะนำผม ให้กำลังใจผม จนกระทั่งผมเรียนจบชั้นมัธยมและสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตอนนั้นผมอายุเพียง 18 ปีเอง”
ตารางมิสซาออนไลน์
วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563
http://www.catholic.or.th/live/livec19mass/liveall/liveall.html
เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของมนุษย์ที่จะต้องพบกับความสุขและความทุกข์ ความสมหวังหรือผิดหวัง การเจริญเติบโตแข็งแรงหรือความเจ็บไข้ได้ป่วย ความเข้มแข็งหรืออ่อนแอก็สามารถเกิดขึ้นได้กับชีวิตของเราทุกขณะ ไม่ว่าเราจะรวยหรือยากจน อยู่ในตำแหน่งงานอาชีพอะไร คนเราย่อมพบกับความดีใจหรือเสียใจ สภาพความเป็นจริงเหล่านี้เรายอมรับได้มากน้อยแค่ไหน?
อันที่จริง ในขณะที่เราสุขสบายหรือมีความดีใจ คนเราก็ล้วนมีความต้องการความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในเวลาแห่งความทุกข์ เสียใจ ผิดหวัง เจ็บไข้ได้ป่วยหรือในยามอ้างว้าง คงเป็นการยากที่เราจะหาคำตอบ เพราะเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา และเราควรจะต้องปฏิบัติอย่างไร หรือใครจะเป็นผู้ช่วยเหลือ ปลอบโยนให้กำลังใจเรา เพื่อเราจะสามารถผ่านพ้นสภาพเหล่านี้ได้อย่างมีความสุข ความพอใจอย่างมีความหวัง
มีเรื่องเล่าในประเทศจีนเมื่อนานมาแล้วว่า มีชายคนหนึ่งไปสมัครเป็นนักดนตรีเป่าขลุ่ย (flute) ในวงดนตรีของพระจักรพรรดิโดยตนเองเป่าขลุ่ยไม่เป็นเลย ขณะแสดงดนตรีร่วมวงถวายความสำราญให้แก่พระจักรพรรดิ เขาก็ใช้ริมฝีปากแตะปลายขลุ่ย และแกล้งเป่าขลุ่ยโดยไม่มีเสียงดนตรีดังออกจากขลุ่ยของเขาเลย ชายคนนี้ได้รับเงินเดือน ได้รับการดูแล และอยู่สุขสบายดีด้วยความชาญฉลาดที่สามารถแฝงตัวสมัครเข้าในวงดนตรีประจำวังของพระจักรพรรดิได้
เวลาผ่านไปนานอควร พระจักรพรรดิก็เริ่มเบื่อที่จะฟังเสียงเพลงจากการแสดงเป็นวง จึงสั่งให้นักดนตรีแต่ละคนเล่นดนตรีเดี่ยว (solo) ถวายความสำราญให้แก่พระองค์ นักดนตรีแต่ละคนก็เล่นดนตรีด้วยเครื่องดนตรีที่ตนถนัด ถวายความสำราญแก่พระจักรพรรดิโดยดี ยกเว้นคนเป่าขลุ่ยจอมปลอมคนนี้เพราะเขาไม่มีทักษะการเป่าขลุ่ยเลย ในที่สุดก่อนกำหนดวันแสดงของตนจะมาถึง เขาจึงชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน ... การหนีปัญหาของเขานี้เป็นที่มาของวลีภาษาอังกฤษที่เราใช้ทุกวันนี้คือ “...refuse to face the music” (...ปฏิเสธที่จะเผชิญเสียงดนตรี)
ตารางมิสซาออนไลน์ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ วัดเขต 1
1. อาสนวิหารอัสสัมชัญ รับชมผ่านทาง http://www.catholic.or.th/
2. วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) รับชมผ่านทาง