เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของมนุษย์ที่จะต้องพบกับความสุขและความทุกข์ ความสมหวังหรือผิดหวัง การเจริญเติบโตแข็งแรงหรือความเจ็บไข้ได้ป่วย ความเข้มแข็งหรืออ่อนแอก็สามารถเกิดขึ้นได้กับชีวิตของเราทุกขณะ ไม่ว่าเราจะรวยหรือยากจน อยู่ในตำแหน่งงานอาชีพอะไร คนเราย่อมพบกับความดีใจหรือเสียใจ สภาพความเป็นจริงเหล่านี้เรายอมรับได้มากน้อยแค่ไหน?
อันที่จริง ในขณะที่เราสุขสบายหรือมีความดีใจ คนเราก็ล้วนมีความต้องการความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในเวลาแห่งความทุกข์ เสียใจ ผิดหวัง เจ็บไข้ได้ป่วยหรือในยามอ้างว้าง คงเป็นการยากที่เราจะหาคำตอบ เพราะเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา และเราควรจะต้องปฏิบัติอย่างไร หรือใครจะเป็นผู้ช่วยเหลือ ปลอบโยนให้กำลังใจเรา เพื่อเราจะสามารถผ่านพ้นสภาพเหล่านี้ได้อย่างมีความสุข ความพอใจอย่างมีความหวัง
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงมาหาเราเถิด ท่านทั้งหลายที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก” แล้วเราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงเอาแอกของเรามาแบกไว้แล้วเรียนรู้จากเรา เพราะว่าเรามีใจสุภาพ อ่อนน้อม และจิตใจของท่านทั้งหลายจะได้พักผ่อน ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะและภาระของเราก็เบา (มธ.11: 28 -30) นี่คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ให้กำลังใจและเตือนใจเราให้พร้อมรับความยากลำบากด้วยใจสงบ เพราะพระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเรารับรู้และร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา สละชีวิตที่มีค่าของพระองค์ เพื่อเราทุกคนจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีค่า มีกำลังใจที่จะสู้ทน ลุกขึ้นและก้าวเดินต่อไปในชีวิต
( ที่มา : คุณพ่อประชาชาติ ปรีชาวุฒิ, 25 ปี ชีวิตสงฆ์แห่งพระพร, กรุงเทพฯ, หน้า 68)