เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการสวดสายประคำ และการรำพึงข้อพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซูเจ้า และพระแม่มารีย์
เมื่อ ค.ศ. 1978 วารสารไมเคิ้ล ตีพิมพ์การรำพึงสายประคำที่พระนางมารีย์ทรงชี้แนะแก่บาร์บาราชาวโปแลนด์ เธอผู้นี้ได้มอบชีวิตคืนให้พระเจ้าในวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1981 เมื่ออายุ 78 ปี บทความนี้ คือสิ่งที่พระนางมารีย์ตรัสแก่สตรีผู้นี้
* พรสวรรค์ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ คือการที่เราสามารถเอาใจเขามาใส่ใจเราได้
* สิ่งที่แข็งที่สุด เอาชนะได้ด้วยสิ่งที่อ่อนที่สุด
* เมื่อประตูบานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งก็เปิด แต่บ่อยครั้ง เรามัวแต่จ้องประตูบานที่ปิด จนไม่ทันเห็นว่ามีอีกบานที่เปิดอยู่
* อย่ามัวค้นหาความผิดพลาด จงมองหาหนทางแก้ไข
* อารมณ์ขันเป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดที่ช่วยรักษาสิ่งอื่นได้ เพราะทันทีที่เกิดอารมณ์ขัน ความรำคาญและความขุ่นข้องหมองใจจะมลายไป กลับกลายเป็นความเบิกบานแจ่มใสของจิตใจ
* อย่ากลัวที่จะนั่งหยุดพัก เพื่อคิดไตร่ตรอง
วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2020 เวลา08.30-16.00น. ฝ่ายงานธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายฯ จัดเข้าเงียบให้เจ้าหน้าที่ประจำปี โดยได้เชิญคุณณัฐสิทธิ อัฐธรรมรัตน์ ฆราวาสผู้ทำงานเกี่ยวกับธรรมทูตของคุณพ่ออนุรักษ์ ประจงกิจ มาแบ่งปัน ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารแคทเทอรีน บ้านพักพระสงฆ์ อัสสัมชัญ บางรัก ในการเข้าเงียบครั้งนี้ คุณพ่อวุฒิไกร ชินทร์นลัยเข้าร่วมด้วย จากนั้นเป็นพิธีเดินรูป 14 ภาค และเคารพศีลมหาสนิท โดยคุณพ่อทัศมะ กิจประยูร และพิธีบูชาขอบพระคุณปิดการเข้าเงียบโดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร และคุณพ่อวุฒิไกร ชินทร์นลัย ณ วัดน้อยอัสสัมชัญ
ความเชื่อสำคัญของคริสตชนคาทอลิกเรามีศูนย์รวมอยู่ที่การเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ แต่ศาสนาคริสต์เป็นมากกว่าชุดความเชื่อ นั่นคือเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ความเชื่อแบบคริสตชนต้องส่งผลเป็นการใช้ชีวิตรักและรับใช้ผู้อื่น มิฉะนั้นมันจะเป็นความเชื่อที่ไม่จริงใจและเปล่าประโยชน์ หลักธรรมของคริสตชนช่วยให้เราค้นพบว่าควรดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า ดังที่พระเยซูเจ้าและพระศาสนจักรเปิดเผยแก่เรา
หลักธรรมของคริสตชนคืออะไร? CCC 1731-1738