ธรรมเนียมการเปลี่ยนชื่อนักบวช มีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการก่อตั้งศาสนาคริสต์ ในพระวรสารของนักบุญมัทธิว เล่าว่าพระเยซูเจ้าทรงแต่งตั้งนักบุญเปโตร อัครสาวก ขึ้นเป็นผู้นำพระศาสนจักรและชื่อเดิมของนักบุญเปโตร คือ ซีโมน (Simon)
ธรรมเนียมการเปลี่ยนชื่อเมื่อเข้าบวช เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงการเปลี่ยนแปลงบทบาท ทัศนคติ และวิถีชีวิต เมื่อพระสันตะปาปาดำรงบทบาทประมุขแห่งพระศาสนจักร ก็เท่ากับต้องทรงเปลี่ยนชีวิตของพระองค์ เช่นเดียวกับเปลี่ยนพระนาม คือต้องทรงอุทิศทั้งชีวิตรับใช้พระศาสนจักร บ่อยครั้งทีเดียว เมื่อบุคคลหนึ่งตัดสินใจอุทิศชีวิตของตัวเอง เพื่อรับใช้พระเจ้า บุคคลนั้นจะได้รับชื่อใหม่เนื่องจากเข้ารับบทบาทและพันธกิจใหม่
พระสันตะปาปาองค์แรกที่เปลี่ยนพระนาม เมื่อทรงขึ้นสู่ตำแหน่ง คือ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 2 ซึ่งเป็นประมุข เมื่อปี ค.ศ.533 พระนามเดิมของพระองค์ คือ เมอร์คิวริโอ (Mercurio) อันเป็นชื่อหนึ่งของเทพเจ้าเมอร์คิวรี (Mercury) คงไม่เหมาะ หากจะทรงใช้ชื่อเดิมระหว่างดำรงตำแหน่งประมุขแห่งพระศาสนจักร พระองค์จึงทรงรับเอาพระนามของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 1 มาใช้ เพื่อเทิดพระเกียรติ
ไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดทรงเปลี่ยนพระนามอีก จนถึงวาระของบาทหลวง ออกตาเวียน (Octavian) ผู้เปลี่ยนไปใช้พระนามจอห์นที่ 12 เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ในปี ค.ศ.955 ไม่กี่ทศวรรษต่อมา บาทหลวงปีเตอร์ คาเปอโนวา (Peter Canepanova) ก็ใช้พระนามจอห์นที่ 14 เมื่อรับตำแหน่งพระสันตะปาปา
นาย ไบรอัน บัตเลอร์ ประธานสมาคมประวัติศาสตร์คาทอลิกอเมริกา อธิบายว่า สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ที่ 14 เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในหลายๆพระองค์ที่มีชื่อเดิมว่า เปโตร แต่ไม่ทรงเลือกใช้ชื่อเดิม เมื่อทรงขึ้นสู่ตำแหน่งประมุข เพราะชื่อนี้ซ้ำกับประมุของค์แรกของพระศาสนจักร และนับแต่นั้นมา ก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดต่อมา
พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายที่ทรงใช้พระนามเดิม เมื่อขึ้นครองตำแหน่งพระสันตะปาปา คือ สมเด็จพระสันตะปาปา มาร์แซลลุสที่ 2 ซึ่งทรงขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาในปี ค.ศ.1555 ชื่อเดิมของพระองค์คือ มาร์แซลโล เซอร์วินิ (Marcello Cervini)
ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่, ฉบับที่ 226, ปีที่ 38 กรกฎาคม – สิงหาคม 2019/2562 หน้า 19)