ความเชื่อคือ การยอมรับว่า ผู้นั้น สิ่งนั้น เหตุการณ์นั้น เรื่องนั้น มีอยู่จริง เป็นจริง และไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ด้วยเหตุด้วยผล หรือตามหลักวิทยาศาสตร์ เมื่อเป็นเช่นนี้ อะไรก็ตามที่เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยเหตุผลหรือด้วยวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ต้องอาศัยความเชื่อ เพราะมันเป็นควมจริงที่พิสูจน์ได้แล้ว เช่น เราทราบว่า บนดวงจันทร์ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย ดังนั้น ความเชื่อที่บอกว่ามีกระต่ายบนดวงจันทร์จึงไม่ถูกต้อง เพราะพิสูจน์แล้วด้วยการส่งมนุษย์อวกาศไปสำรวจดวงจันทร์ และพบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตจริงๆ
ความเชื่อ เป็นพระพรที่พระประทานให้มนุษย์ ให้มนุษย์ยอมรับในพระเป็นเจ้า และพระวาจาของพระองค์ที่ทรงมอบแก่มนุษย์ อันได้แก่พระคัมภีร์นั่นเอง
เมื่อเป็นพระพรที่พำระประทานให้ จึงขึ้นอยู่กับพระองค์ที่จะทรงมอบหรือประทานให้ผู้ใด ให้ใคร หรือจะไม่ให้ใครก็ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของพระองค์ล้วนๆ ดังนั้น หลายครั้งเราจึงพบว่า หลายคนเรียนรู้พระธรรมคำสอนคาทอลิกได้ทะลุปรุโปร่ง สามารถตอบคำถามได้ทุกคำถาม แต่เขาไม่ได้เป็นคาทอลิก เพราะเขาไม่ได้รับความเชื่อ คำสอนที่เขาได้รับจึงเป็นเพียงแค่ ความรู้ เท่านั้น มันหาเป็น ชีวิต หรือ ความรัก ไม่ แต่ตรงกันข้าม เราเห็นอีกบางคนอ่านหนังสือไม่ออก คำสอนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ถามอะไรก็ตอบไม่ค่อยได้ แต่กลับศรัทธา เป็นคาทอลิกที่ดี เป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยม เพราะเขามีความเชื่อ ซึ่งเป็นพระพรที่ได้รับมาจากพระเป็นเจ้า ถ้าจะถามว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ก็ต้องตอบว่า “เป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า” เพราะพระองค์ทรงมีแผนการสำหรับทุกคน
ความเชื่อเป็นชีวิต เราเคยได้ยินคำพูดนี้อยู่บ่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีความหมายตรงกับ ความเชื่อ ในมิติของศาสนาคริสต์ กล่าวคือ เมื่อเป็นชีวิต ย่อมหมายถึง การ “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” ดังสิ่งมีชีวิตทั้งหลายด้วย ผิดกันตรงที่ความเชื่อนั้นเป็นนามธรรม ไม่ม่รูปร่างหรือร่างกายที่สามารถจับต้องได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ใช่รูปธรรม ที่เป็นวัตถุ
ความเชื่อของเราเกิดจากพระเป็นเจ้าประทานให้ และผู้รับจะต้องดูแลบำรุงเลี้ยงให้เจริญเติบโตเข้มแข็งขึ้น ด้วยความร่วมมือกับพระเป็นเจ้า ด้วยการแสวงหาประสบการณ์ จากพระเมตตา จากความรักของพระองค์ นั่นคือการปฏิบัติตนตามจิตรมณ์ของพระองค์
ในเวลาเดียวกัน ถ้าหากเราไม่ระวังดีๆ ถ้าเราปล่อยตัวละเลยหน้าที่ต่างๆ ของการเป็นบุตรที่ดีของพระเป็นเจ้า และการเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันและกัน ความเชื่อของเราก็จะเจ็บป่วย หรืออาจถึงขึ้นตายได้เหมือนกัน ดังนั้น ความเชื่อจึงเป็นชีวิตที่เราจะต้องดูแลอย่างดี
สิ่งที่ต้องเชื่อ ต่อไปนี้เราจะหันมาพิจารณาถึง “เรื่องที่ต้องเชื่อ” หรือมีอะไรบ้างที่เราต้องเชื่อ ในฐานะที่เราเป็นคริสตชนคาทอลิก ซึ่งพี่น้องก็พอจะทราบกันแล้วว่า บทข้าพเจ้าเชื่อ เป็นการสรุปข้อความเชื่อของเรา ณ ที่นี้จึงขอนำบทภาวนานี้มาให้พี่น้องเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง โดยแยกเป็นข้อๆ ดงนี้
1. ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเนรมิตฟ้าดิน
2. ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
3. ทรงปฏิสนธิเดชะพระจิตเจ้า ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี
4. ทรงรับทรมานสมัยปอนทิอัส ปิลาต ทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์ และทรงถูกฝังไว้
5. เสด็จสู่แดนมรณะ วันที่สามทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
6. เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ
7. แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
8. ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิตเจ้า
9. พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล
10. ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์
11. การอภัยบาป
12. การกลับคืนชีพของร่างกาย และชีวิตนิรันดร อาแมน
ที่มา : หนังสือหลักธรรมคำสอนคาทอลิก คุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม