พระวาจาของพระเจ้าได้ประทานชีวิตพระเจ้าให้แก่เรา พระวาจานี้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของแผ่นดิน ทำทุกสิ่งขึ้นใหม่ (เทียบ วว 21:5) พระวาจาของพระองค์ครอบคลุมพวกเรา ไม่เพียงแต่ในฐานะที่เป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น แต่ยังในฐานะผู้ประกาศพระวาจาอีกด้วย พระผู้ที่พระบิดาทรงส่งมาเพื่อปฏิบัติตาม พระประสงค์ [ของพระบิดา] (เทียบ ยน 5:36-38; 6:38-40;7:16-18) ทรงดึงดูดพวกเรามาหาพระองค์และทรงทำให้พวกเราผูกพันกับชีวิตและพันธกิจของพระองค์ พระจิตของพระผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพทรงทำให้ชีวิตของเราเหมาะสมจะประกาศพระวาจาไปทั่วโลก นี่คือประสบการณ์ของกลุ่มคริสตชนในสมัยแรกซึ่งรู้ดีว่าพระวาจาแพร่ขยายไปโดยการประกาศและการเป็นพยานยืนยัน (เทียบ กจ 6:7) ที่ตรงนี้เราคิดเป็นพิเศษถึงชีวิตของเปาโลอัครสาวกซึ่งถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชิงตัวไว้ทั้งหมด (เทียบ ฟป 3:12) –“ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่พระคริสตเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ในตัวข้าพเจ้า” (กท2:20) – และจากพันธกิจของท่าน “หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ” (1คร 9:16) ท่านรู้ดีว่าความจริงที่ได้รับการเปิดเผยในพระคริสตเจ้าคือความรอดพ้นของชนทุกชาติ เพื่อทรงช่วยให้รอดพ้นจริง ๆจากการเป็นทาศของบาปเข้ามารับอิสรภาพเป็นบุตรของพระเจ้า
ถึงกระนั้น ข่าวที่พระศาสนจักรประกาศแก่โลกก็คือ พระวาจาแห่งความหวัง (เทียบ 1ปต 3:15) มนุษย์ต้องการ “ความหวังยิ่งใหญ่” เพื่อดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ความหวังยิ่งใหญ่นี้ก็คือ “พระเจ้าองค์นั้นที่มีใบหน้ามนุษย์และทรา “รักเราจนถึงที่สุด” (ยน 131:) ดังนั้นธรรมชาติของพระศาสนจักรก็คือการเป็นธรรมทูต เราไม่อาจเก็บวาจาแห่งชีวิตนิรันดรที่พระเจ้าประทานให้เมื่อเราพบพระเยซูคริสตเจ้าไว้กับตนเองได้ พระวาจาเหล่านี้ถูกกำหนดไว้สำหรับทุกคน สำหรับมนุษย์แต่ละคน มนุษย์แต่ละคนในสมัยนี้ ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ล้วนต้องการข่าวสารนี้ ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลุกความหิวใหม่ ความกระหายใหม่ต่อพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เช่นเดียวกับในสมัยของ ประกาศกอาโมส (เทียบ อสม 8:11) จึงเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเราที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เราได้รับมาเป็นของประทานจากพระเจาต่อไปให้แก่กัน
(จากสมณลิขิตเตือน “พระวาจาขององค์พระผู้เป็นพระเจ้า” ข้อที่ 91 ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16)
พระวาจาของพระเจ้าคือความจริง... (ยน 17:17)