ในช่วงยุคขุดทอง (gold rush) ในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกาพวกนักผจญภัยขุดทองเดินทางด้วยเรือในแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi)
ครั้งหนึ่งช่วงขาเดินทางกลับเรือลำหนึ่งกำลังแล่นอยู่ในแม่น้ำมิสซิสซิปปีนี้ทั้งลำเต็มไปด้วยนักผจญภัยขุดทองต่างคนต่างพูดคุยโอ้อวดถึงจำนวนทองที่ตนเองขุดหามาได้
ระหว่างที่คุยกันนั้นเรือก็เกิดอุบัติเหตุแล่นชนหินใต้แม่น้ำทำให้น้ำทะลักเข้าใต้ท้องเรือและเริ่มจมลงคนโดยสารทุกคนต่างวิ่งเอาตัวรอดโดยบางคนขึ้นเรือยางซึ่งมีไม่เพียงพอทำให้หลายคนต้องกระโดดว่ายน้ำขึ้นฝั่ง
แต่มีนักผจญภัยขุดทองคนหนึ่งเกิดหัวใสแทนที่จะรีบขึ้นเรือยางหรือกระโดดออกจากเรือว่ายน้ำขึ้นฝั่งกลับเข้าไปในห้องของนักผจญภัยขุดทองคนอื่นๆและขโมยทองเป็นก้อนๆของเพื่อนร่วมเดินทางจนเต็มกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกงรวมทั้งกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาแล้วเขาก็กระโดดลงจากเรือที่ขณะนี้เริ่มจมลงลึกแล้ว
แต่เมื่อเขากระโดดลงไปในแม่น้ำมิสซิสซิปปีโดยตั้งใจจะรีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งหาเป็นเช่นนั้นไม่…เมื่อหน่วยกู้ภัยมางมศพภายหลังก็พบว่าก้อนทองหนักหลายสิบกิโลกรัมในตัวเขาเป็นต้นเหตุให้ชายหวงสมบัติคนนี้จมดิ่งสู่ใต้แม่น้ำทันทีโดยเจ้าตัวไม่มีโอกาสว่ายน้ำเลยทั้งๆที่เขาเป็นคนว่ายน้ำเก่ง
1 ทิโมธี6:10
“…ความรักเงินตราเป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายทุกประการบางคนเมื่อแสวงหาแต่เงินก็พลัดหลงจากความเชื่อ เป็นเหตุให้ตนเองได้รับความทุกข์เป็นอันมาก”
มัทธิว 6:19-21
“…ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมหรือตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”
มัทธิว 16:26
“…มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา”
(ที่มา :ราฟาเอล, 2010 น้ำทิพย์เชิญจิบ, กรุงเทพฯ, หน้า 278 – 279)