ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงให้ข้อคิดแก่บรรดาพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ ที่มาเข้าเฝ้า ตรัสว่า
ประเด็นเรื่องกระแสเรียกต้องไม่ถูกลดคุณค่าลงไปตามเกณฑ์ต่างๆ อาทิ แผนงานอภิบาล ตรงกันข้าม กระแสเรียกต้องเป็นวิถีทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ค้นพบความชื่นชมยินดีของพระวรสาร ดังที่เราเรียนรู้ได้จากแนวทางการดำเนินชีวิตของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเผยแสดงความเมตตาให้กับผู้คนที่อยู่ล้อมรอบพระองค์
แนวทางการดำเนินชีวิตของพระเยซูเจ้า สามารถสรุปได้เป็น 3 คำ คือ ออกไป มองดู และเรียก
1 “ออกไป” พระศาสนจักรต้องก้าวออกไป ไม่ใช่ขังตัวเองอยู่กับความกลัว ความล้มเหลว จำไว้ว่า กระแสเรียกจะไม่บังเกิดผล หากผู้นำพระศาสนจักรไม่สามารถให้คำจำกัดความที่ชัดเจนและสร้างสรรค์ต่อเป้าหมาย โครงสร้าง และวิธีในการประกาศข่าวดี
2 “มองดู” ผู้อภิบาลต้องเรียนรู้ที่จะมองผู้อื่นแบบที่พระเยซูเจ้าทรงมอง ถ้าพระเยซูเจ้าอยู่ในยุคนี้ พระองค์จะมองผู้คนอย่างไร พระองค์จะไม่มองใครแบบมีอคติ พระองค์จะสร้างพื้นที่ให้ทุกคนได้สัมผัสความรักของพระเจ้า พระศาสนจักรและโลกต้องการพระสงฆ์คาทอลิกที่มีวุฒิภาวะ และมีสมดุลในการทำงาน พ่อขอย้ำว่า มีความสมดุลคือ คนที่มีใจกล้าและใจกว้างในการเดินร่วมทางไปกับสัตบุรุษ โดยไม่มุ่งที่การควบคุมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขา
3. “เรียก” ผู้อภิบาลต้องเรียนรู้วิธีการที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกผู้คนให้มาติดตามพระองค์ พระเยซูเจ้าไม่เคยบังคับให้ใครเปลี่ยนศาสนา พระองค์ไม่เคยจัดการอบรมแบบยาวๆ หรือจัดคอร์สอบรมมากมาย ไม่เลย ตรงกันข้าม พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ทุกคนตั้งคำถาม และพระองค์ทรงตอบข้อสงสัย จากนั้น พระองค์จึงจะเชิญให้เขามาติดตามพระองค์
สิ่งที่พระศาสนจักรต้องเรียนรู้ สรุปอยู่ในกิริยาแค่ 3 คำ นั่นคือ “ออกไป มองดู และเรียก”
(ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่, ปีที่ 38, ฉบับที่ 288, เดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม 2562/2019 หน้า 11)