25 กรกฎาคม นักบุญยากอบ (+42/43) อัครธรรมทูต
นักบุญ ยากอบ ซึ่งเราเรียกว่า “องค์ใหญ่” เป็นบุตรของเศเบดี และซาโลเม (มก.15:40 ; เทียบ มธ.27:56) และเป็นพี่ชายของนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร ท่านทั้งสองได้เป็นผู้ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกให้มาเป็นสานุศิษย์ของพระองค์ และอยู่ในสานุศิษย์รุ่นแรกๆ ของพระองค์ ท่านทั้งสองไม่ได้ลังเลใจที่จะติดตามพระองค์เลย (มก. 1:19… ; มธ. 4:21… ; ลก 5:10) ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกอัครสาวก 3 คนแรก ของพระเยซูเจ้าที่อยู่กับพระองค์ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เสมอ (มก.3:17; มธ. 10 : 2 ; ลก.6:14 ; กจ. 1:13)
เช่นเดียวกับน้องชาย นักบุญ ยากอบ มีนิสัยเตรียมพร้อมเสมอและใจร้อน พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกท่านทั้งสองว่า “โบอาแนร์แกส” (บุตรแห่งฟ้าร้อง) (มก.3:17) แต่ถึงกระนั้น กับน้องชายของท่านนักบุญเปโตรและอันดรูว์ ท่านเหล่านี้ ก็เป็นศิษย์คนโปรดของพระเยซูเจ้า ท่านได้อยู่ในเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาแม่ยายของนักบุญเปโตรให้หายจากโรค (มก.1:29-31) ในการปลุกบุตรสาวของยาอีร์ให้ฟื้นกลับคืนชีพ (มก 5:37-43 ; ลก 8:51-56) ในการจำแลงพระกายของพระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์ (มก 9:2-8; มธ. 17:1-8 ; ลก. 9:28-36) และพร้อมกับเพื่อนอัครสาวกอีก 3 ท่าน ท่านได้ถามพระเยซูเจ้าเรื่องจะมีหมายสำคัญของเวลามาเตือนก่อนที่จะมาถึงวันสิ้นโลก (มก.13:1-8) ที่สุดพร้อมกับนักบุญเปโตรและนักบุญยอห์น พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกให้ไปตื่นเฝ้าพร้อมกับพระองค์ในสวนเกทเสเมนี (มก.14:33… ; มธ. 26:37…)
เพราะความมีใจร้อนรนอยากจะทำอะไรให้เสร็จเร็ว ท่านได้บอกพระเยซูเจ้าให้บันดาลให้ไฟตกมาจากฟ้าเผาบรรดาชาวสะมาเรียซึ่งไม่ยอมรับพระองค์ และท่านก็ต้องถูกพระเยซูเจ้าต่อว่าตักเตือน (ลก. 9:51-56) ท่านได้พูดอวดตัวอยากจะได้เป็นที่ต้นในพระอาณาจักร พลางพูดท้าทายว่าพร้อมเสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเหตุให้เกิดปฏิกิริยาในหมู่บรรดาอัครธรรมทูตด้วยกัน พระเยซูเจ้าจึงถือโอกาสสอนเรื่องความสุภาพและการอยากได้ที่ต้นๆว่า ที่ต้นๆหรือตำแหน่งใดๆนั้น คือการรับใช้และการเป็นมรณสักขี (มก.10:35-45 ; มธ.10:20-28)
คำทำนายที่พระเยซูเจ้าได้บอกกับนักบุญ ยากอบว่าท่านจะต้องดื่มกาลิกส์แห่งยัญบูชาพร้อมๆกับพระองค์ และก็เป็นความจริงตามคำกล่าวของพระองค์ คือท่านได้เป็นอัครธรรมทูตองค์แรกที่ได้หลั่งโลหิตเพื่อพระคริสตเจ้า ท่านได้ถูกกษัตริย์เฮรอด อากริปปาที่ 1 สั่งให้ตัดศรีษะ เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นระหว่างเทศกาลปัสกา (เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า) ในปี ค.ศ.42 (กจ.12:1-2)
นักบุญยากอบ ไม่เคยได้ไปประกาศพระวรสารในประเทศสเปน ทั้งศพของท่านก็ไม่เคยถูกเคลื่อนย้ายไปที่ประเทศสเปนด้วย เวนันซีโอ ฟอร์ตูนาโต ได้ยืนยันว่า ในสมัยของท่าน (ศตวรรษที่ 6) ศพของนักบุญยากอบ ก็ยังอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นไป ท่านนักบุญก็ได้รับการเคารพให้เกียรติเป็นพิเศษที่เมืองคัมโปสแตลลา ในประเทศสเปน ท่านได้ช่วยป้องกันความเชื่อและความเป็นไทของบรรดาชาวเมืองจากแขกมัวร์ และสถานที่นี้ได้กลายเป็นที่มีชื่อที่สุดของการแสวงบุญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรปในสมัยกลางและในสมัยต่อมาด้วย
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ให้เราวอนขอนักบุญยากอบ ได้ช่วยป้องกันความเชื่อของเราเมื่อตกในภัยอันตรายที่ล่อแหลม
2. ขออย่าให้เราแสวงหาสิ่งตอบแทนของโลกนี้สำหรับกิจกรรมต่างๆที่เราได้กระทำ
3. ขอให้เราอย่าได้ถอยหลัง เมื่อเราได้ตั้งหน้าที่จะเดินอยู่ในหนทางแห่งความดี
4. ให้เราแสวงหาความชิดสนิทสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้าในความศรัทธาที่เข้มแข็งและจริงใจด้วยเถิด
(ที่มา : ย.วีรศักดิ์ วนาโรจน์สุวิช, ประวัตินักบุญตลอดปี, สมุทรปราการ, บ.สตาร์บูม อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด, 2007 ,หน้า 278-280)