ฉลองดวงหทัยของพระนางมารีอา
วันเสาร์หลังวันฉลองพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
ปฏิทินพิธีกรรมฉบับใหม่ได้ใส่วันฉลองดวงหทัยของพระนางมารีอาทันทีในวันถัดไป (วันเสาร์) หลังวันฉลองดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ทั้งนี้เป็นการกลับไปหาความศรัทธาภักดีของวันฉลองอย่างเดิม นักบุญยอห์น เอวเดส ในศตวรรษที่ 17 ได้เขียนไว้ว่า ไม่ควรแยกหัวใจทั้งสองดวงนี้ออกจากกันในโครงสร้างของพิธีกรรม
ความศรัทธาภักดีต่อดวงหทัยของพระนางมารีอานี้ได้แพร่หลายยิ่งขึ้น เป็นต้น หลังจากการประจักษ์มาของพระนางที่ฟาติมา ในปี 1942 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงถวายมนุษยชาติแด่ดวงหทัยของพระนางมารีอา และได้ทรงกำหนดให้ฉลองดวงหทัยนี้ในวันที่ 22 สิงหาคม แปดวันหลังจากฉลองแม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ เพื่อจะวิงวอนขอสันติภาพ
“ชนทุกสมัยจะกล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นสุข” (ลก 1:4) พระนางพรหมจารีได้ทรงทำนายถึงตัวพระนางเองไว้ล่วงหน้าในบทเพลง “มักญีฟิกัต” (Magnificat) คลังสมบัติอันไม่รู้จักหมดแห่งความรักและพระหรรษทานที่มีอยู่ในดวงหฤทัยของพระเยซูเจ้า ก็มีอยู่เช่นเดียวกันในดวงหทัยของพระนางมารีอาด้วย ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ในครรภ์ของพระนาง หัวใจ (= ชีวิต) ของพระบุตรพระเป็นเจ้าที่ได้เสด็จลงมารับเอาเนื้อหนังก็ได้เต้นไปตามจังหวะพร้อมกับของพระนางมารีอา นี่แหละที่เป็นสายสัมพันธ์ที่ไม่เคยขาดจากกันเลย และยิ่งได้รับการกระชับให้แน่นแฟ้นแข็งแรงยิ่งขึ้นเมื่อพระนางมารีอาได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
ในบูชามิสซา ผู้ที่เป็นประธานได้กล่าวทักทายกับสัตบุรุษด้วยคำกล่าวทักทายเดียวกับที่เทวทูตได้ทักทายพระนางมารีอา โดยกล่าวว่า “พระเจ้าสถิตกับท่าน” และเวลาที่เรารับศีลมหาสนิท หัวใจของเราก็ได้กลายเป็นเหมือนกับหัวใจของพระนาง คือเช่นเดียวกับพระนางและพร้อมกับพระนาง เราได้กลายเป็นผู้ประกาศพระคริสตเจ้าให้กับบรรดาพี่น้องของเรา ดังนั้น ขอให้เราอย่าได้มีความกลัว เพราะว่าพระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางพวกเราและพร้อมๆกับ “พระคริสตเจ้าองค์แห่งสันติภาพของเรา” เราได้กลายเป็น “ผู้สร้างสันติย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็น บุตรของพระเป็นเจ้า” (อฟ.2:14-22 ; มธ. 5:9)
ปัญหาเรื่องสันติภาพเป็นปัญหาที่เร่งด่วนและใหม่อยู่เสมอ สันติภาพที่แท้จริงมิใช่อยู่เฉพาะการไม่ทำสงครามกันเท่านั้น แต่ที่สำคัญจะต้องอยู่ที่การมีทัศนคติ ความประพฤติ การทำงานที่ไปกันได้ระหว่างชนชั้นทางสังคม และในหมู่ประชาชนเอง การทำงานเพื่อสร้างสันติภาพต้องถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง (เทียบ GS 77-93)
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ขอพระนางมารีอาทรงสอนให้เรารู้จักชีวิตของพระเยซูเจ้าอย่างลึกซึ้งเช่นเดียวกับพระนาง
2. ขอให้เราได้มีพระคริสตเจ้าในหัวใจของเรา เพื่อว่าเราจะได้สามารถเป็น “ผู้ประกาศพระองค์ได้”
3.ให้เราได้รู้จักเข้าหา ทุกคนด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ในฐานะที่เป็น “ผู้สร้างสันติภาพ”
4. ให้เราได้ประประกาศสันติภาพของพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นผลของความรักในการออกแรงทำงานของพวกเรา
(ที่มา : ย.วีรศักดิ์ วนาโรจน์สุวิช, ประวัตินักบุญตลอดปี, สมุทรปราการ, บ.สตาร์บูม อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด, 2004, หน้า 211 – 212)