7 มีนาคม นักบุญแปร์เปตูอา และนักบุญเฟลีชีตัส (+202/3) มรณสักขี
ความโหดร้ายทารุณของมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันมีอยู่เสมอในทุกยุคทุกสมัย แต่พละกำลังของพระคริสตเจ้าผู้ได้กลับคืนชีพก็สามารถเอาชนะมันได้โดยอาศัยความรัก
วันนี้ทั่วทั้งพระศาสนจักรถวายพระพรแด่พระบิดาเจ้า สำหรับการเป็นพยานยืนยันอันน่าอัศจรรย์ของหญิงสาว 2 คน รวมทั้งคริสตชนและคริสตชนสำรองอีกบางคน ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในใจกลางของอาฟริกาโรมัน ใกล้ๆเมืองคาร์เธจ
แปร์เปตูอา สตรีผู้สูงศักดิ์ และ เฟลีชีตัส คนใช้ ทั้งสองคนได้มีความสัมพันธ์กันในความเชื่อ และได้ร่วมกันประกาศความจริงของพระคริสตเจ้า และในที่สุดก็ได้เป็นมรณสักขีด้วยกันทั้งคู่ เรื่องราวที่เล่าถึงการทรมานของท่านทั้งสองนั้น นับว่าเป็นหน้าหนังสือที่งดงามวิจิตรที่สุดของคริสต์ศาสนายุคต้นๆ
“ใบหน้าของเธอทั้งสองเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี รวมทั้งดวงตาของเธอ กิริยาของเธอก็แสดงออกซึ่งความยินดีอันนี้และที่สุดก็ได้ระเบิดอกมาเป็นคำพูด”
และสิ่งหนึ่งที่ได้บันดาลให้นักบุญแปร์เปตูอา ได้มีความร่าเริงยินดีอย่างสูงสุด ก็คือการขับร้องเพลงสดุดีสู้กับเสียงตะโกนโห่ร้องของฝูงชน
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ขอให้หญิงที่ถูกล่อลวงได้รับชัยชนะต่อการล่อลวงนั้น
2. ขอให้ผู้ที่ถูกเบียดเบียนได้มีวามชื่นชมยินดีที่ตนเองได้เหมือนกับพระคริสตเจ้าพระผู้ไถ่
3. ขอให้โลหิตของบรรดามรณสักขีได้ช่วยให้แผ่นดินของท่านเกิดดอกออกผลเพื่อพระคริสตเจ้าด้วยเถิด
4. ขอให้วีรกรรมที่ไม่มีใครมองเห็นของบรรดาผู้เป็นแม่และผู้เป็นภรรยาทั้งหลาย ได้ช่วยคนที่ตนรักได้เอาตัวรอดด้วยเถิด
(ที่มา : ย.วีรศักดิ์ วนาโรจน์สุวิช, ประวัตินักบุญตลอดปี, นครปฐม, วิทยาลัยแสงธรรม สามพราน, 1985, หน้า 87-88)