1 โครินทธ์ 12: 4 – 7 : 11
พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม … พระพรพิเศษทั้งมวลเป็นผลงานจากพระจิตเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงแจกจ่ายพระพรต่างๆ ให้แต่ละคนตามที่พอพระทัย
• เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้าง ที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะ และไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามา ก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่นๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำ หน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา จะมีแกะเพียงฝูงเดียว และผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเรา เพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจ สละชีวิตนั้น เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา
(ยอห์น 10:11-18)
คืนหนึ่งชายคนหนึ่งฝันว่า เขาเดินไปตามชายหาดกลับพระเยซูเจ้า เขารู้สึกว่ามีความสุข มีกำลังใจ รอยเท้าที่ปรากฏบนผืนทรายนั้นมี 2 คู่ เดินเคียงกันไป… แต่แล้วต่อมา เมื่อเขาเหลียวหลังกลับไปมอง เขากลับเห็นรอยเท้านั้นเหลือเพียงคู่เดียว ชายคนนั้นจำได้ว่า ช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาที่เขามีความทุกข์ใจอย่างมาก เขาจึงร้องถามพระเยซูว่า "ทำไมพระองค์ถึงปล่อยให้ฉันเดินเพียงลำพัง พระองค์ไปอยู่ที่ไหนในช่วงเวลาวิกฤตของชีวิตฉัน?" พระเยซูเจ้าทรงตอบว่า "เราไม่เคยห่างไกลจากเจ้าเลย โดยเฉพาะเวลาแห่งความทุกข์ของเจ้านั้น เราอยู่ใกล้ชิดเจ้ามากที่สุด รอยเท้าที่เจ้าเห็นเพียงคู่เดียวนั้น เป็นรอยเท้าของเราเอง เรากำลังอุ้มเจ้าอยู่"
อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เล่าถึงประวัติของเขาว่า ถ้าหากเขาไม่ได้พบกับหัวหน้า รปภ. (รักษาความปลอดภัย) คนหนึ่งที่โรงเรียนมัธยมที่เขาเรียน ชีวิตของเขาคงไม่ได้หันกลับ 180 ดีกรี และดีอย่างที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้
เรื่องเป็นเช่นนี้ .-
ตัวเขาเป็นเด็กนักเรียนเกกมะเหรกเกเร มักมีเรื่องกับเพื่อนนักเรียน ยังความวุ่นวายให้แก่ครูจนถูกลงโทษเป็นประจำ โทษที่ได้รับก็คือ ไปช่วยงานฝ่าย รปภ. และที่นั่นเขาได้พบกับหัวหน้า รปภ. ซึ่งเป็นคนรูปร่างค่อนข้างอ้วนเตี้ย แต่ละครั้งที่ถูกทำโทษอยู่ที่ฝ่าย รปภ. หัวหน้า รปภ. คนนี้ก็จะพูดคุยสอบถามว่า ชอบอะไร อยากเรียนอะไร ชอบงานอะไร โตขึ้นอยากเป็นอะไรถามไปและช่วยสอนงานให้ด้วย
ความคุ้นเคยก็กลายเป็นมิตรภาพอันยังผลให้นักเรียนเกเรคนนี้ (ตัวอาจารย์ผู้เล่าเรื่อง) เริ่มเปลี่ยนเป็นนักเรียนที่ดีขึ้น การถูกลงโทษก็ลดน้อยลงๆจนหัวหน้า รปภ.ก็เปรยว่า ช่วงหลังๆไม่ได้มาเลย (เพราะถูกลงโทษน้อยลง) จึงชวนให้มาทำงานหลังชั่วโมงเรียน นักเรียนคนนี้ก็แย้งว่า ใครจะมาจ้างนักเรียนเกเรคนนี้ หัวหน้า รปภ.บอกว่ามีซิ และเป็นจริงตามนั้น
“ผมจึงได้ทำงานหลังเลิกเรียนกับเขามาเป็นเวลานานเป็นปีๆ และตลอดเวลาเขาก็ให้คำแนะนำผม ให้กำลังใจผม จนกระทั่งผมเรียนจบชั้นมัธยมและสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตอนนั้นผมอายุเพียง 18 ปีเอง”