Get Adobe Flash player

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานฯ

 imageedit 1 6373507384

บาทหลวงปิยะชาติ   มะกรครรภ์

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูต

อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Facebook


banner face holych Custombanner_face_pmg_Custom.pngPresentation2 Custom

งานอื่นๆของฝ่าย

Slide6 CustomSlide5 Custom

เวลา

18 

       ทีมงานอัลฟ่า ฝ่ายงานธรรมทูต ได้รับเชิญจาก Alpha Asia Pacific (ผ่านทาง Alpha Thailand) ให้เข้าร่วมงาน Alpha Regional Gathering 2023 (Asia Pacific) ที่ Alpha Hubกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน 2023 ภายในงานมีพี่น้องคริสตชนจากหลายนิกาย จากประเทศต่างๆ ที่ใช้คอร์สอัลฟ่าในการประกาศข่าวดีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคเข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน

       ผู้เข้าร่วมประชุมจากฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ (กลุ่มคาทอลิก) ประกอบไปด้วย คุณอธิกานต์ คำศรี เจ้าหน้าที่แผนกปฏิบัติการ ฝ่ายงานธรรมทูต พร้อมด้วยอาสาสมัครทีมงานอัลฟ่าอีก 3 ท่าน ได้แก่ คุณนิรมล สุขวัฒนางกูร, คุณตะเกียง กังสวิวัฒน์ และคุณณิชชา ศิริคันธะมาต ทั้งนี้ พวกเราได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับตัวแทนของพี่น้องคริสเตียนจากโบสถ์ต่างๆ ทั่วประเทศไทย จำนวนกว่า 50 ท่าน นำทีมโดยอาจารย์ธงชัย ประดับชนานุรัตน์, อาจารย์นิยม ชาญศิริเมธา และคณะกรรมการอัลฟ่าประเทศไทย (Alpha Thailand) ขอขอบคุณทีมงานอัลฟ่าประเทศไทย สำหรับการประสานงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดการสัมมนาที่ได้มอบให้แก่พวกเรากลุ่มคาทอลิกด้วย ณ โอกาสนี้ (ทราบมาว่า การมาร่วมงานของตัวแทนจากประเทศไทยทั้งหมดในปีนี้ เป็นปีที่มีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยส่งมาร่วมงาน)

(มีเนื้อหาอย่างอื่นเพิ่มเติมที่น่าสนใจ โปรดคลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม)

       สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราเซอร์ไพส์เมื่องานวันแรกได้เริ่มขึ้น คือเราพบว่ามีผู้เข้าร่วมงานที่เป็นคริสตชนคาทอลิกเป็นจำนวนมากพอสมควรทีเดียว มีจำนวนคร่าวๆ ประมาณ 80 คน จาก 5 ประเทศ ได้แก่ฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย และไทย นอกจากนี้ จากการที่ได้มีโอกาสสอบถาม ฟังการแบ่งปันของพี่น้องคาทอลิกจากประเทศอื่นๆ ดังที่กล่าวไปข้างต้น ยังพบว่าพวกเขาได้ใช้กระบวนการอัลฟ่าเป็นเครื่องมือสำหรับการประกาศข่าวดีในชุมชนเขตวัดกันอย่างแพร่หลาย และใช้กันมายาวนานพอสมควรด้วย

       การฟังบรรยายและเข้าร่วมประชุมในแต่ละช่วง เนื่องจากมีบางเนื้อหาที่ต้องแยกกันไปเข้าร่วม (Workshops) จึงจะขอแบ่งปันเฉพาะในส่วนของช่วงทางผู้จัดงานฯ ได้จัดให้เป็นพิเศษสำหรับกลุ่มคาทอลิกที่มาร่วมงานทั้งหมดเป็นหลัก และตามด้วยเฉพาะเนื้อหาสำคัญอื่นๆ ที่ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้รับฟังร่วมกัน

  1. Transforming Your Parishes

       หนึ่งในกิจกรรมพิเศษที่ทางผู้จัดงานได้จัดให้สำหรับกลุ่มคาทอลิกเท่านั้น นั่นคือการบรรยายและเสวนาในหัวข้อหลัก คือ “การฟื้นฟูชุมชนวัด” (Transforming Your Parishes) โดยเริ่มด้วยการบรรยายในหัวข้อ “การสร้างศิษย์พระคริสต์ และการฟื้นฟูชุมชนวัด” (Making Disciples and Transform Parishes) โดยคุณ Daniel Ang ผู้อำนวยการแผนกการประกาศข่าวดีประจำอัครสังฆมณฑลซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (Sydney Centre for Evangelisation, Archdiocese of Sydney) ต่อด้วยการบรรยายในหัวข้อ “เจาะลึกคนรุ่นใหม่ โดยการเรียกสู่การปฏิบัติ” (The Open Generation: Insights and A Call to Action) โดยคุณ Huw Warmenhoven ผู้ประสานงานด้านเยาวชนประจำอัครสังฆมณฑลแคนเบอร์ราและโกลเบิร์น (Archdiocese of Canberra and Goulburn) ซึ่ง 2 หัวข้อนี้ได้บรรยายด้วยความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างศิษย์พระคริสต์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการประกาศข่าวดีที่ทุกชุมชนต้องมี โดยผ่านทางวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พระวาจา การจัดอบรมฟื้นฟูชีวิตจิตของคริสตชน ซึ่งจำเป็นต้องทำทันทีโดยไม่ต้องรอ อีกทั้งต้องปลูกฝังบรรดาเด็กและเยาวชนตั้งแต่ในวัยเด็ก เพื่อให้พวกเขาได้รู้จักเป็นผู้นำในการสร้างศิษย์พระคริสต์ที่ดีต่อไป   

       จากนั้น เริ่มต้นการเสวนาภายใต้หัวข้อเดิมและเรื่องราวทั้งหมดที่วิทยากรทั้ง 2 ท่านได้บรรยายก่อนหน้า โดยมีผู้ร่วมเสวนา 4 ท่าน ได้แก่พระอัครสังฆราช Julian Leow ประมุขแห่งอัครสังฆมณฑลกัวลาลัมเปอร์, พระสังฆราช Ha Chishing พระสังฆราชผู้ช่วยประจำสังฆมณฑลฮ่องกง, คุณ Daniel Ang และคุณ Elizabeth Lopez ผู้อำนวยการศูนย์อัลฟ่า ประเทศฟิลิปปินส์ และผู้อำนวยการงานด้านคำสอนคาทอลิกในระดับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ดำเนินการเสวนาโดยคุณ Huw Warmenhoven จุดประสงค์และภาพรวมของการเสวนา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการประกาศข่าวดี ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการสร้างศิษย์พระคริสต์ และตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนในฐานะที่เราเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระศาสนจักรทั้งในระดับท้องถิ่นและสากลด้วย    

       ปิดท้ายด้วยหัวข้อที่สำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้ หากจะพูดถึงหัวเรื่องต่างๆ ที่วิทยากรและการเสวนาได้ดำเนินการไปแล้วเสร็จสิ้นก่อนหน้า นั่นคือหัวข้อ “ทำไมเราต้องพึ่งพระจิตเจ้า” (Why we need the Holy Spirit?) โดย ดร. Mary Healy อาจารย์ภาควิชาพระคัมภีร์ประจำบ้านเณรใหญ่พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ณ เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา (รับฟังผ่านทาง VDO recording) ประเด็นหลักๆ ที่อาจารย์ได้เน้นให้ความสำคัญมากที่สุดที่อยากให้ผู้ประกาศข่าวดีทุกคนได้รับรู้และจดจำ คือ เมื่อเราเริ่มต้นการสร้างศิษย์พระคริสต์ในชุมชนของเรา ขอให้เราได้มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเยซูเจ้าด้วยการสวดภาวนาวอนขอพระองค์อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งตระหนักอยู่เสมอว่างานของพระเป็นเจ้าเราไม่สามารถทำได้โดยอาศัยเพียงพละกำลังหรือความรู้ความสามารถของเรา แต่ดำเนินงานได้โดยอาศัยพลังจากพระจิตเจ้า ซึ่งเราต้องวอนความช่วยเหลือจากพระองค์อย่างสม่ำเสมอ

  1. Marriage & Parenting Courses by Alpha & Related Sessions

       เท่าที่ทราบมาสำหรับการจัดงาน ARG ในแต่ละปี จะมี Theme งานหลักซึ่งเป็นหัวข้อหลักๆ ที่ทางผู้จัดงานต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ในปี 2023 นี้ มาใน Theme ของ “การโอบกอดเพื่อแสดงความรัก” (Embrace) (เน้นไปในเรื่องราวของครอบครัว) ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจที่ทางผู้จัดงานได้นำเสนอต่อผู้เข้าร่วมงานทุกคนและให้ลองนำไปใช้ นั่นคือ คอร์สอัลฟ่าสำหรับคู่สมรสและผู้ปกครอง (Marriage & Parenting Courses) คิดค้นโดยคุณ Nicky Lee และ คุณ Sila Lee คู่สมรสผู้ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำที่คริสตจักรพระตรีเอกภาพ บรอมตัน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (Holy Trinity Brompton Church)

       เนื้อหาของคอร์สนี้ได้รับการออกแบบโดยยึดตามคำสอนของศาสนาคริสต์ เหมาะสำหรับคู่สมรสหรือผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นคริสตชนหรือไม่ใช่คริสตชนก็ตาม โดยคุณ Nicky Lee ได้แบ่งปันถึงคู่สมรสหลายๆ คู่ รวมถึงผู้ปกครองหลายคนที่ได้ลองมาร่วมคอร์สนี้ พวกเขาพบว่าถึงแม้ว่าเนื้อหาของคอร์สนี้จะเป็นในแนวทางของศาสนาคริสต์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดเลยเมื่อได้เข้าร่วม

       คอร์สอัลฟ่าสำหรับคู่สมรสและผู้ปกครองนี้มีทั้งหมด 4 คอร์ส 4 แบบ สามาถเลือกเข้าร่วมตามความสนใจหรือสถานะของผู้เข้าร่วมตามความเหมาะสม โดยคอร์สต่างๆ มีดังนี้

  1. The Pre-Marriage Course (คอร์สสำหรับผู้เตรียมตัวที่จะแต่งงาน, เป็นคล้ายๆ ใน way ของการอบรมคู่แต่งงาน แต่ใช่อัลฟ่ามาช่วยในการอบรม) แบ่งเข้าร่วมออกเป็นทั้งหมด 5 ครั้ง
  2. The Marriage Course (คอร์สสำหรับคู่สมรส) แบ่งเข้าร่วมออกเป็นทั้งหมด 7 ครั้ง
  3. The Parenting Children Course (คอร์สสำหรับผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่ต้องดูแลเด็ก (ลูก) ที่มีอายุในช่วงระหว่าง 0-10 ปี) แบ่งเข้าร่วมออกเป็นทั้งหมด 5 ครั้ง
  4. The Parenting Teenagers Course (คอร์สสำหรับผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่ต้องดูแลเยาวชน (ลูก) ที่มีอายุในช่วงระหว่าง 11-18 ปี) แบ่งเข้าร่วมออกเป็นทั้งหมด 5 ครั้ง

       นอกจากนี้ ยังมี session การเสวนาที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง Marriage & Parenting Courses ด้วยหัวข้อ “Embracing Modern-Day Dating and Family Dynamics” (โอบรับการออกเดตในยุคสมัยใหม่และการขับเคลื่อนครอบครัว) มีผู้ร่วมเสวนาทั้งหมด 4 ท่าน ได้แก่ คุณ Nicky & Sila Lee, อาจารย์ Abel Cheah ศาสนจารย์และรองเจ้าอาวาสประจำคริสตจักรพระตรีเอกภาพ บูกิต บินตัง [Holy Trinity Bukit Bintang (HTBB)] ประเทศมาเลเซีย และอาจารย์ Jacintha Tagal ศาสนจารย์เจ้าอาวาสประจำคริสตจักร HTBB ดำเนินการเสวนาโดยคุณ Miles & Sarah Toulmin คู่สมรสซึ่งเป็นผู้อำนวยการงานด้านอัลฟ่าระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักร HTBB เนื้อหาของการเสวนาโดยภาพรวม เป็นการพูดคุยถึงประเด็นปัญหาที่เกี่ยวของความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน เรื่องของความเป็นพ่อแม่ การให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรู้จักตนเอง ความเข้าใจในเรื่องของสื่อลามกและยาเสพติดที่ถูกต้อง

  1. The Next Decade

       หัวข้อหลักอีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจใน ARG2023 นั่นคือ “The Next Decade” (1 ทศวรรษต่อจากนี้) ผู้จัดงานได้เชิญชวนให้ผู้ร่วมงานทุกคนได้ลองมองไปถึงในอนาคตอีก 10 ปี ข้างหน้า เราวางแผนและคาดหวังให้คริสตจักรหรือชุมชนวัดของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

       การบรรยายที่เกี่ยวข้องหัวข้อหลัก The next decade นี้ เริ่มที่หัวข้อย่อย “Vital Signs of a Healthy Church” (สัญญาณสำคัญของคริสตจักร (ชุมชนวัด) ที่ดี) บรรยายโดยคุณ Miles Toulmin เนื้อหาโดยรวมของการบรรยายนี้พูดถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้คริสตจักรเกิดความเจริญรุ่งเรืองและมีประสิทธิภาพที่ดี พูดถึงปัญหาต่างๆ ของการที่ผู้นำคริสตจักรจะต้องพบเจอและให้ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไข และ 10 ปัจจัยสำหรับผู้นำคริสตจักร (ในบริบทคาทอลิก อาจเป็นเจ้าอาวาสหรือฆราวาสที่ทำงานเป็นหลักในชุมชนวัด) ที่ดีที่ต้องมี เพื่อที่จะนำพาคริสตจักรของตนเองไปสู่ความรุ่งเรืองได้ตามจุดประสงค์ของการบรรยายนี้ 10 ปัจจัยที่ว่านี้ ได้แก่

  1. รักพระเยซูเจ้าทุกวัน
  2. จัดลำดับความสำคัญของการสวดภาวนาได้
  3. มีชีวิตการแต่งงานและครอบครัวที่ดี (ข้อนี้ยกเว้นผู้ที่ได้รับศีลบวชและผู้ถวายตัวในบริบทคาทอลิก)
  4. ดูแลตนเองเป็นอย่างดี
  5. มีปฏิสัมพันธ์และความฉลาดทางอารมณ์ที่ดี
  6. มีการปฏิบัติงาน (ศาสนกิจ) นอกคริสตจักร (ชุมชนวัด) บ้าง
  7. สามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดี
  8. ช่วยพัฒนาบุคคลอื่นๆ เป็นต้นผู้ที่เป็นผู้นำ
  9. เป็นทั้งผู้ให้คำปรึกษาและผู้ฝึกสอน (เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ)
  10. ศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา

       จากนั้น ต่อด้วยหัวข้อย่อย “The Future of the Church” (คริสตจักร, วิถีชุมชนวัด ในอนาคต) บรรยายโดยคุณ Dan Blythe ผู้อำนวยการอัลฟ่าสำหรับเยาวชนระดับชาติ โดยได้แบ่งปันถึงวิธีการประกาศข่าวดีที่มีประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มคนในยุค Generation Z (ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่ได้เป็นคริสตชนหรือเป็นคริสตชนแล้ว) ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เป็นต้นในการทำความเข้าใจต่อมุมมองของพวกเขาที่มีต่อพระเยซูเจ้าและศาสนาคริสต์ เพื่อให้พวกเขาเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและยอมรับพระเยซูเจ้าเข้ามาอยู่ในชีวิตของพวกเขา ประเด็นหลักๆ มีอยู่ 4 ประการ ในการทำความเข้าใจและประกาศข่าวดีกับกลุ่มคนยุค Generation Z ได้แก่ 1) การเปิดใจรับฟังโดยไม่รีบด่วนตัดสิน 2) ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน 3) การก้าวข้ามความเห็นต่างได้อย่างดี 4) พูดคุยเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี

       และหัวข้อย่อยสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลัก The next decade นั่นคือ “4 Phases of Revival” (วลี 4 ประการ สำหรับการฟื้นฟู) บรรยายโดยอาจารย์ Benny Ho ศาสนจารย์ประจำคริสตจักร Faith Community Church กรุงเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย อาจารย์ได้แบ่งปันถึงวลีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางในการฟื้นฟูคริสตจักร 4 ประการ โดยอ้างอิงจากหนังสือประกาศกมาลาคี 3:1-7 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการฟื้นฟูนี้ ขอยกตัวอย่างแค่บางประเด็นเพียงเท่านั้น 4 ประเด็นสำคัญของการฟื้นฟู ได้แก่

  1. Preparation (การเตรียมตัว) – อิงจาก มลค 5:1 และวลีของคุณ J Edwin Orr ที่กล่าวไว้ว่า “Whenever God is ready to do something new with His people, He first set them praying” (เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าพร้อมที่จะทรงกระทำสิ่งใหม่ๆ กับประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงให้พวกเขาเริ่มด้วยการภาวนาก่อนเป็นอย่างแรก)
  2. Visitation (การเยี่ยมเยียน) – อิงจาก มลค 3:1, กจ 2:2 และ 2คร 29:36
  3. Purification (การชำระให้บริสุทธิ์) – อิงจาก มลค 3:2, 3 , สดด 23:3, 4 และ มลค 3:3-5
  4. Reformation (การบูรณะ) – อิงจาก มลค 3:5 , 2คร 7:14 , มลค 3:6-7

       นอกจากนี้ สำหรับหัวข้อหลัก “The Next Decade” ยังเปิดโอกาสให้เข้ากลุ่มย่อย เพื่อให้ได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ถึงภาพรวมของการดำเนินงานตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของคริสตจักรต่างๆ รวมถึงมุมมองในอีก 1 ทศวรรษต่อจากนี้   

4.       Under the Hood of Alpha

       การบรรยายในหัวข้อ “Under the Hood of Alpha” (เบื้องหลังของอัลฟ่า) โดยคุณ Melissa Theng ผู้อำนวยการอัลฟ่าระดับเอเชียแปซิฟิกและระดับชาติ และคุณ Patricia Lau ผู้อำนวยการงานอัลฟ่าประจำประเทศฮ่องกง เนื้อหาของการบรรยายนี้ได้นำทุกคนทบทวนอีกครั้งถึงรูปแบบและกระบวนการของการใช้อัลฟ่า ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประกาศข่าวดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากจะรู้จักพระเยซูเจ้า และแนะนำถึงการใช้อัลฟ่าด้วยวิธีที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดผลดีที่สุด  

5.       Alpha in the Catholic Context

       Workshop หัวข้อแยกนี้ (ทีมงานคาทอลิกเราเลือกเข้า session นี้) บรรยายถึงอัลฟ่าในบริบทคาทอลิก โดยคุณ Daniel Ang เนื้อหาโดยรวมพูดถึงการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อบรรดาพระสงฆ์และคริสตชนทั่วไปที่สนใจในการนำอัลฟ่าในบริบทของคาทอลิกไปใช้ และได้ย้ำอย่างชัดเจนอีกครั้งเกี่ยวกับกระบวนการอัลฟ่าว่าเป็นเพียงกระบวนการพูดคุย แลกเปลี่ยนในเรื่องราวของพระเยซูเจ้าในเบื้องต้นเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้สนใจแรกเริ่มที่ปรารถนาจะเข้ามาเป็นคริสตชนคาทอลิก อัลฟ่าไม่ใช่การตอบคำถามในเรื่องคำสอนคาทอลิกและไม่ใช่การสอนคำสอน ซึ่งมีหลายคนยังเกิดความเข้าใจที่ผิดในเรื่องนี้อยู่ นอกจากนี้มีการเข้ากลุ่มย่อยเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของการใช้อัลฟ่าในบริบทของคาทอลิกในเขตชุมชนวัดของตน   

6.       แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศ

       ผู้จัดงานยังจัดให้มีการเข้ารวมกลุ่มย่อยกันตามประเทศของตนเองเพื่อไตร่ตรองร่วมกันและแบ่งปันให้กับประเทศอื่นๆ ถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ใน 1 วัน โดยจะเน้นตามหัวข้อหลักที่กำหนด คือ ภาพที่เราอยากจะเห็นใน 1 ทศวรรษข้างหน้า สำหรับการดำเนินงานต่างๆ ของคริสตจักรของประเทศของตน ประเทศไทยได้อยู่ร่วมห้องประชุมเดียวกันกับประเทศอินโดนิเซีย, ปากีสถาน และเกาหลีใต้  

7.       Practicalities of Alpha & Experience Alpha @HTBB

       การบรรยายในหัวข้อสุดท้ายของการสัมมนาในครั้งนี้ คือ “Practicalities of Alpha” (การปฏิบัติจริงของอัลฟ่า) โดยคุณ Melissa Theng และคุณ Elizabeth Lopez การบรรยายเป็นไปในบรรยากาศสบายๆ พร้อมกับการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันด้วย เนื้อหาของการบรรยายนี้พูดสรุปถึงภาพรวมทั้งหมดของการอบรมตลอด 3 วันที่ผ่านมา และเสริมด้วยการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำคริสตจักรหลายๆ ท่านที่ปรารถนาอยากจะขึ้นมาแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องการเริ่มต้นจัดอัลฟ่า ปัญหาที่พบระหว่างการดำเนินการ สถานะการดำเนินงานในปัจจุบันและการดำเนินงานต่อไปในอนาคต รวมถึงสิ่งที่ได้รับจากการจัดอัลฟ่าในประเทศของตน

       ต่อจากนั้น ผู้บรรยายทั้ง 2 ท่านเชิญชวนให้ผู้ร่วมงานทุกคนได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดคอร์สอัลฟ่าของคริสตจักร HTBB แบบใกล้ชิด ซึ่งโดยปกติแล้วทางคริสตจักรจะจัดคอร์สอัลฟ่าในทุกวันพุธเวลา 20.00 น. เป็นที่น่าสนใจว่าจำนวนผู้ที่มาเข้าร่วมอัลฟ่าของคริสตจักร HTBB นี้ มีจำนวนมากจริงๆ จำนวนประมาณ 50-60 คน และเวลาที่เขาเลือกจัดเป็นเวลาค่ำ ซึ่งเป็นเวลาที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วม (เวลาหลังเลิกงานแล้ว)

8.       Morning Holy Mass for Catholic delegates

       ทางผู้จัดงานได้จัดเตรียมวัดน้อยไว้ให้สำหรับผู้ร่วมงานกลุ่มคาทอลิก สำหรับการร่วมพิธีมิสซาเช้าและสำหรับพระสงฆ์ที่ปรารถนาจะร่วมถวายบูชามิสซาด้วยในทุกวัน เราพบว่าพระสงฆ์ที่มาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้มีจำนวนมากพอสมควร (ประมาณ 15 ท่าน จาก 5 ประเทศที่มีคาทอลิกมาด้วย) และมีพระสังฆราช 2 ท่าน อยู่กับพวกเรากลุ่มคาทอลิกด้วย นี่จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีพระสงฆ์จำนวนไม่น้อยทีเดียวที่รู้จักอัลฟ่าและให้ความสนใจในการมาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ และเป็นกำลังใจเล็กๆ สำหรับทีมงานอัลฟ่าคาทอลิกในประเทศไทยในการที่จะช่วยผลักดันการใช้กระบวนการอัลฟ่าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นภายในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และอาจไปถึงสังฆมณฑลอื่นๆ ด้วยต่อไป

       นี่เป็นภาพรวมคร่าวๆ ทั้งหมดของการสัมมนาในงาน Alpha Regional Gathering 2023 ตลอด 3 วัน พวกเราทีมงานอัลฟ่าคาทอลิกได้รับความรู้และประสบการณ์มากมาย และตั้งใจที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับงานอัลฟ่าคาทอลิกของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดผลมากที่สุดในการนำผู้คนเข้ามารู้จักพระเยซูเจ้าต่อไป

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก ทีมงานอัลฟ่าประเทศไทย 🙏