Get Adobe Flash player

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานฯ

 imageedit 1 6373507384

บาทหลวงปิยะชาติ   มะกรครรภ์

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูต

อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Facebook


banner face holych Custombanner_face_pmg_Custom.pngPresentation2 Custom

งานอื่นๆของฝ่าย

Slide6 CustomSlide5 Custom

เวลา

11 ตุลาคม
นักบุญยอห์นที่ 23 พระสันตะปาปา
(1881 – 1963)

     พระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ทรงกำเนิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 1881 ที่หมู่บ้านซอตโต อิล มอนเต ในสังฆมณฑลเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี เมื่อกำเนิดพระองค์ทรงมีพระนามว่า อันเยโล ยูเซปเป รอนคาลลี เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้อง 14 คน ของ โจวานนี แบตติสตา รอนคาลลี และ มาเรีย แอนนา รอนคาลลี

     พระองค์สมัครเข้าบ้านเณรที่เบอร์กาโม ในปี ค.ศ.1892 และในวันที่ 10 มีนาคม 1904 พระองค์ทรงรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ที่วัด ซานตา มาเรียโน เปียซา เดอ โปโปโล กรุงโรม หลังจากได้รับศีลบวชแล้ว ได้เป็นเลขานุการของพระสังฆราชมงซินญอร์ ราดินี เตเดสกี ซึ่งพระองค์ได้ร่วมทำงานกันกับท่านหลายประการ เช่น ร่วมกันจัดสมัชชาพระสังฆราช, งานสังคมสงเคราะห์ , งานจาริกแสวงบุญ
     ในปี ค.ศ.1915 พระองค์ได้เป็นอนุศาสนจารย์ในกองทหาร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากสงครามสงบลง ได้ทรงเปิด “บ้านนักศึกษา” สำหรับความต้องการฝ่ายจิตวิญญาณของคนรุ่นหนุ่มสาว ต่อมาในปี ค.ศ.1921 พระองค์ถูกเรียกให้ไปทำงานในสันตะสำนัก ในตำแหน่งของผู้อำนวยการสมณองค์กรเผยแผ่ความเชื่อในอิตาลี
     ต่อมา ในปี 1925 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ทรงแต่งตั้งให้คุณพ่อรอนคาลลีได้เป็นพระสังฆราช โดยใช้คติพจน์ของพระอัครสังฆราชที่ว่า “ความนบนอบและสันติภาพ” หลังจากได้รับแต่งตั้งแล้ว ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศบัลกาเรีย
     ในปี 1935 พระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศตุรกี และประเทศกรีซ ซึ่งพระองค์ทรงสร้างความสัมพันธ์อันดี ด้วยการเข้าไปสานสัมสัมพันธ์เสวนากับพี่น้องอิสลามและศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และในปี 1944 พระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสมณทูตประจำประเทศฝรั่งเศส ซึ่งที่นั่น พระองค์ได้ทรงช่วยเหลือเชลยศึก และโดยเฉพาะชาวยิวให้รอดพ้นจากนาซี โดยการออกวีซ่าผ่านแดนจากผู้แทนพระสันตะปาปา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง พระองค์ได้ทรงมีบทบาทช่วยเหลือองค์กรพระศาสนจักรในประเทศฝรั่งเศสจนสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ในเวลาไม่นาน
     ในปี 1953 พระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระคาร์ดินัลและเป็นพระอัยกาแห่งเมืองเวนิซ พระองค์ทรงเป็นผู้อภิบาลที่ชาญฉลาดกล้าได้กล้าเสีย ทรงดำเนินชีวิตตามแบบอย่างนักบุญลอเรนซ์ ยุสตีนีอานี ซึ่งเป็นพระอัยกาแห่งเมืองเวนิซองค์แรก เมื่อพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 สิ้นพระชนม์ในปี 1958 พระองค์ทรงได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา โดยใช้พระนามว่า “ยอห์นที่ 23 “ ในตลอดสมณสมัยของพระองค์ ได้ทรงดำเนินพันธกิจของคริสตชนทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ ได้แก่ การเยี่ยมนักโทษและคนป่วย, ทรงต้อนรับคนทุกชาติและทุกศาสนา เอาใจใส่ชีวิตจิตของพี่น้องสัตบุรุษเป็นอย่างมาก พระองค์ได้ทรงออกพระสมณสาสน์สากลหลายฉบับ ได้แก่ พระสมณสาสน์เรื่อง “สันติภาพและความรัก” (Pacem in Terris) พระสมณสาสน์เรื่อง “มารดาและอาจารย์” (Mater et Magistra)
     พระองค์ทรงเป็นผู้ประกาศให้มีการเปิดสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ขึ้น ในปี 1962 โดยมีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูความเชื่อและให้พระศาสนจักรคาทอลิกก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ไปพร้อมกับโลกที่ก้าวหน้าไป ท่ามกลางกระแสการผันแปรของโลกปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงได้รับการยกย่องจากสัตบุรุษทั้งหลายว่า “พระสันตะปาปาผู้แสนดี” (The Good Pope)
พระสันตะปาปายอห์นที่ 23 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1963 พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งในฐานะพระสันตะปาปาเพียง 5 ปีเท่านั้น แต่พระองค์กลับเปิดประตูให้พระศาสนจักรเข้าสู่ยุคใหม่ และผลงานที่สำคัญของพระองค์ก็มีบทบาทในพระศาสนจักรมาจนถึงปัจจุบันนี้