ผู้ก่อตั้งคณะยุวธรรมทูต
ชาร์ล เดอ ฟอร์แบง เจนสัน เป็นนักบวชจากตระกูลขุนนาง หลังจากพายุแห่งการปฏิวัติในประเทศฝรั่งเศสได้สิ้นสุดลง ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลนานซี หลังจากนั้นยังไม่ทันถึงสองปี ท่านก็ถูกบังคับให้ออกจากสังฆมณฑลของท่านและไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาอีก ทั้งนี้เนื่องมาจากว่าท่านใกล้ชิดสถาบันกษัตริย์มากเกินไป
ประชาชนในเขตสังฆมณฑลนานซีรู้สึกเสียใจที่เห็นว่าท่านต้องจากไป เพราะพวกเขาเห็นว่าท่านเป็นบุคคลมีความรักต่อคนยากจนอย่างแท้จริง พระสังฆราชเองมีความปรารถนาที่จะเดินทางไปทำงานเผยแผ่ข่าวดีของพระเจ้าในประเทศจีน ซึ่งในขณะนั้นประเทศฝรั่งเศสให้ความสนใจที่จะติดต่อกับประเทศจีนทั้งทางด้านการเมืองและการค้า แต่ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ไปได้ตามใจปรารถนา ท่านจึงทำงานประกาศข่าวดีของพระเจ้าในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของท่านต่อไป
ด้วยความร้อนรนของพระสังฆราช เดอ ฟอร์แบง-เจนสัน ท่านได้ก่อตั้งคณะธรรมทูตแห่งประเทศฝรั่งเศส และท่านเองยังเป็นนักเทศน์ชั้นเยี่ยม จนเป็นที่รู้กันทั่วประเทศฝรั่งเศสและประเทศใกล้เคียงอื่นๆ ท่านได้ให้ความสนใจและให้กำลังใจให้บรรดาธรรมทูตที่เดินทางไปทำงานในประเทศจีนเป็นพิเศษ ท่านได้พยายามติดต่อกับเพื่อนๆที่ทำงานอยู่ที่นั้นอยู่เสมอๆ สิ่งนี้เองที่ทำให้ท่านได้ทราบข่าวต่างๆซึ่งนำความเศร้าสะเทือนใจมาสู่จิตใจของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวความยากลำบากของเด็กๆอันเนื่องมาจากฐานะทางครอบครัวและความคิดผิดๆของสังคมจีนในสมัยนั้น ที่ทำให้เด็กๆจำนวนต้องตายเพราะความยากจน หลายคนถูกฆ่าตายหลังจากเกิดมาได้เพียงไม่กี่วันเพียงเพราะเกิดมาเป็นเพศผู้หญิง เพราะสังคมจีนในสมัยนั้นเชื่อว่าเด็กผู้หญิงจะนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัว หรือเด็กผู้หญิงไม่มีความสามารถเท่ากับเด็กผู้ชาย
บรรดาธรรมทูตได้ช่วยเหลือบรรดาเด็กเหล่านั้นโดยนำเอาเด็กๆที่โชคร้ายเหล่านั้นมาไว้ที่บ้านพักเพื่อจะได้ให้รับศีลล้างบาปและให้ได้รับการศึกษาอบรมในฐานะที่เป็นคริสตชน ปัญหาต่างๆเหล่านี้อยู่ในหัวใจของพระสังฆราชมาโดยตลอด และท่านขบคิดอยู่เสมอว่าจะช่วยพวกเด็กๆเหล่านั้นได้อย่างไร ที่สุดท่านได้ไปขอคำแนะนำและการสนับสนุนจากสตรีฆราวาสผู้มีน้ำใจดีชื่อ มารี โปลีน จารีโก ซึ่งคำแนะนำสำคัญที่ได้รับทำให้ท่านเกิดแรงบันดาลในการทำงานช่วยเหลือเด็กๆก็คือ “ไม่มีวิธีไหนที่จะดีเท่ากับการให้เด็กๆ ได้ช่วยเหลือเด็ก ๆด้วยกัน”
ในการจัดตั้งองค์กรหรือสมาคมใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเพราะมีสถาบันหรือองค์กรด้านงานธรรมทูตอยู่แล้ว ซึ่งดูเหมือนงานจะซับซ้อนกัน แม้แต่สมาชิกในกระทรวงว่าด้วยการประกาศพระวรสารสู่ปวงชนเองก็ยังคัดค้านข้อเสนอของพระสังฆราช แต่ที่สุดเนื่องจากวัตถุประสงค์ของกลุ่มองค์กรใหม่นี้มุ่งเน้นให้เด็กเป็นธรรมทูตเพื่อเด็ก ๆ ด้วยกันอย่างชัดเจน จึงทำให้ข้อสงสัยต่างๆหมดไป
อ้างอิง