/home/missionbkk/public_html/templates/30aug182/component.php on line 5
"> อิทธิพลของชีวิตคนต่อคนอื่น

life

    อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เล่าถึงประวัติของเขาว่า ถ้าหากเขาไม่ได้พบกับหัวหน้า รปภ. (รักษาความปลอดภัย) คนหนึ่งที่โรงเรียนมัธยมที่เขาเรียน ชีวิตของเขาคงไม่ได้หันกลับ 180 ดีกรี และดีอย่างที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ 

เรื่องเป็นเช่นนี้ .-
     ตัวเขาเป็นเด็กนักเรียนเกกมะเหรกเกเร มักมีเรื่องกับเพื่อนนักเรียน ยังความวุ่นวายให้แก่ครูจนถูกลงโทษเป็นประจำ โทษที่ได้รับก็คือ ไปช่วยงานฝ่าย รปภ. และที่นั่นเขาได้พบกับหัวหน้า รปภ. ซึ่งเป็นคนรูปร่างค่อนข้างอ้วนเตี้ย แต่ละครั้งที่ถูกทำโทษอยู่ที่ฝ่าย รปภ. หัวหน้า รปภ. คนนี้ก็จะพูดคุยสอบถามว่า ชอบอะไร อยากเรียนอะไร ชอบงานอะไร โตขึ้นอยากเป็นอะไรถามไปและช่วยสอนงานให้ด้วย
ความคุ้นเคยก็กลายเป็นมิตรภาพอันยังผลให้นักเรียนเกเรคนนี้ (ตัวอาจารย์ผู้เล่าเรื่อง) เริ่มเปลี่ยนเป็นนักเรียนที่ดีขึ้น การถูกลงโทษก็ลดน้อยลงๆจนหัวหน้า รปภ.ก็เปรยว่า ช่วงหลังๆไม่ได้มาเลย (เพราะถูกลงโทษน้อยลง) จึงชวนให้มาทำงานหลังชั่วโมงเรียน นักเรียนคนนี้ก็แย้งว่า ใครจะมาจ้างนักเรียนเกเรคนนี้ หัวหน้า รปภ.บอกว่ามีซิ และเป็นจริงตามนั้น
“ผมจึงได้ทำงานหลังเลิกเรียนกับเขามาเป็นเวลานานเป็นปีๆ และตลอดเวลาเขาก็ให้คำแนะนำผม ให้กำลังใจผม จนกระทั่งผมเรียนจบชั้นมัธยมและสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตอนนั้นผมอายุเพียง 18 ปีเอง”

     ถึงแม้จะจากกันแล้ว แต่เราทั้งคู่ยังติดต่อกันอยู่ และในที่สุดผมก็เรียนจบมหาวิทยาลัย และได้เป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยนี้
“แต่สิ่งที่ทำให้ผมซาบซึ้ง และเป็นหนี้บุญคุณหัวหน้า รปภ.คนนี้ก็คือ ความจริงที่ผมมาทราบภายหลังว่า งานหลังเวลาเรียนที่ผมทำที่โรงเรียนมัธยมกับหัวหน้า รปภ.นั้น ไม่ใช่เป็นงานที่โรงเรียนจ้าง แต่เป็นงานที่ตัวเขาเองสร้างขึ้นมา และค่าแรงของผมก็คือส่วนแบ่งจากเงินเดือนของหัวหน้า รปภ.เองที่แบ่งมาให้ผม และนี่คือความพยายามของมนุษย์คนหนึ่งที่พยายามจะช่วยกู้ชีวิตนักเรียนเกเรที่ไม่เอาถ่านอย่างผมให้กลับเป็นคนดีได้ – ผมดีใจที่ไม่ทำให้เขาผิดหวัง”
โรม 12 : 5
... แม้เราจะมีจำนวนมาก เราก็รวมเป็นร่างกายเดียวในพระคริสตเจ้าฉันนั้น โดยแต่ละคนต่างเป็นส่วนร่างกายของกันและกัน
(ที่มา : ราฟาแอล, 2010 น้ำทิพย์เชิญจิบ, กรุงเทพฯ, หน้า 280 – 282)