/home/missionbkk/public_html/templates/30aug182/component.php on line 5
"> 19 มีนาคม นักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีอา

19 มีนาคม นักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีอา

     นักบุญยอแซฟ ได้เป็นผู้ที่เชื่อมพระเยซูเจ้ากับเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงสามารถอ้างสิทธิว่า พระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ที่มีเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด ตามที่พระคัมภีร์ได้กล่าวทำนายเอาไว้แล้ว

     นอกนั้นนักบุญยอแซฟ ยังเป็นอัยกาที่ได้บันดาลให้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าโดยความฝันได้สำเร็จไป (มธ. 1,20-24, 2,13-19) เพราะบ่อยๆครั้ง พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงแจ้งให้มนุษย์ได้ทราบถึงพระประสงค์ของพระองค์โดยอาศัยความฝันนั้น เช่นเดียวกับท่านยอห์น นักบุญยอแซฟ เป็นประกาศกคนสุดท้ายคนหนึ่ง เพราะว่าท่านได้ชี้แสดงให้เห็นผู้ที่จะต้องเสด็จมาตามคำทำนายต่างๆ ได้กล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว ท่านได้เป็นอัยกาคนสุดท้ายของพระคัมภีร์ที่ได้รับพระคุณของ “ความฝัน” (ปฐก.28, 10-20 ; 37,6-11) ท่านได้มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายคลึงกับบรรดาอัยกาของพระธรรมเก่าเป็นต้นทีเดียว ในเรื่องเล่าที่ท่านต้องพาพระกุมารและแม่พระหนีไปประเทศอียิปต์ ซึ่งทำให้เราคิดถึงมหาบุรุษยอแซฟที่ถูกพวกพี่น้องขายไปสู่ประเทศอียิปต์ ทั้งนี้เพื่อให้การอพยพครั้งใหม่ได้สำเร็จไปในตัวท่าน และในองค์พระเยซูเจ้าบุตรของท่าน (มธ. 2,13-23 ฮชย. 11,1 ปฐก 37 ; 50,22-26)
     ที่สุด นักบุญยอแซฟ ทรงเป็นหัวหน้าครอบครัวเล็กๆ ที่ต่ำต้อย ทั้งนี้เพื่อว่าบรรดาผู้คนร่วมสมัยกับท่านจะได้สามารถแลเห็นความเป็นจริงของการเสด็จมารับเป็นมนุษย์ของพระวจนาถ ทั้งนี้จะได้สามารถค้นพบความยิ่งใหญ่ของความเป็นจริงที่ต่ำต้อยนั้น ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับบันดาลให้แผนการช่วยมนุษย์ให้รอดได้สำเร็จไป
    นักบุญยอแซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีอาทรงเป็นผู้ใคร่ธรรมคนสุดท้ายของพระธรรมเก่า เพราะท่านได้เจริญชีวิตโดยอาศัยความเชื่อจริงๆ และโดยอาศัยความเชื่อนี่เอง ที่ท่านสมจะได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลรักษา “พระสัญญา” ซึ่งบัดนี้ได้เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาแล้วใน “รหัสธรรมของการช่วยให้รอด” พระวรสารได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของท่านว่า ท่านเป็นรูปแบบขั้นพื้นฐานในโครงการแห่งความรักของพระบิดาเจ้า พร้อมกับหน้าที่พิเศษที่ท่านได้รับมอบหมายในฐานะที่เป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซูคริสตเจ้า ความศรัทธาภักดีและการเคารพให้เกียรติที่บรรดาสัตบุรุษมีต่อนักบุญยอแซฟ ย่อมแสดงให้เห็นว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์และในเวลาที่เหมาะสมที่สุดด้วย
     ผู้ที่เป็นประธานในพิธีบูชามิสซาก็เช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เหมือนกับนักบุญยอแซฟ คือ เป็นผู้เฝ้ารักษาและผู้จัดการ “รหัสธรรมของการช่วยให้รอด” จิตตารมณ์ของการให้บริการของศาสนบริกรนั้น ต้องช่วยทำให้ความเป็นมารดาของพระศาสนจักรและความเป็นบิดาของพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่น่าเชื่อถือยิ่งๆขึ้น
     การเลือกของพระบิดาเจ้านั้น โดยขั้นพื้นฐานแล้วก็ยุติธรรมและถูกต้อง และจะไม่ทำให้ผิดหวังจากความล้มเหลวของบุคคลนั้นๆ ซึ่งที่จริงก็จะเป็นการเสี่ยงอย่างมากสำหรับพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องนี้ ในการที่พระองค์จะทรงเลือกคนใดคนหนึ่งให้ทำงานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์แต่พระองค์ก็ทรงเคารพต่อเสรีภาพของมนุษย์เสมอมา พระองค์ไม่เคยทรงบังคับ